อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าตัวเราจะระมัดระวังแค่ไหน ขับรถด้วยความชำนาญเพียงใด แต่ใช่ว่าจะปลอดภัย หรือมั่นใจได้เสมอไป เพียงเสี้ยววินาทีอาจเกิดอุบัติเหตุได้เลยทันที ถ้าโชคร้ายมาถึงเราหรืออาจจะเป็นเพราะเราประมาทไปเอง ขับรถไปเฉี่ยวชนรถคันอื่นเข้า เราเป็นฝ่ายผิดชัดเจนและเราไม่ได้ทำประกัน รถไว้ด้วย สถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไรดี

1.ทำใจเรื่องค่าเสียหายของรถที่ต้องรับผิดชอบเอง

ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจแก้ไขอะไรได้แล้ว เมื่อเราขับไปชนรถที่มีประกัน แต่ฝ่ายเราไม่ได้ทำประกันรถไว้ ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายต่าง ๆ เอง ซึ่งตรงนี้คุณก็จะต้องตกลงกับคู่กรณีให้ได้ว่า ฝั่งเขาจะเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ หรือจะให้ทางประกันฝ่ายเขาประเมินมาให้ภายหลังก็ได้ ซึ่งขอแนะนำว่าให้เจรจากันดูและอย่าบ่ายเบี่ยง

เมื่อเราผิดแล้วยอมรับผิดชอบ ย่อมจะทำให้คู่กรณีเห็นใจเราบ้าง หากเราชนแล้วหนี หรือบ่ายเบี่ยง ก็จะยิ่งสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย ซึ่งเหตุอาจบานปลายไปจนถึงขั้นเป็นคดีความกันได้ แบบนี้ก็จะยิ่งทำให้เราแย่หนักเข้าไปอีก ผิดก็ควรจะยืดอกรับแมน ๆ กันไป

2.เตรียมรับมือหากมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ค่าใช้จ่ายในความเสียหายในข้อที่ 1 นั้นยังอาจจะยังพอคุยกันได้บ้าง แต่ในข้อนี้เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่กว่ามาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราจะต้องรับผิดชอบด้วย แต่ในส่วนนี้ยังดีที่ตามกฎหมายแล้ว รถยนต์ทุกคันจะต้องทำ พรบ. รถยนต์เอาไว้ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ พรบ. รถยนต์ จะมีการจ่ายเยียวยาให้ผู้บาดเจ็บหรือญาติ ๆ ถ้ารุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

สิ่งที่คุณต้องทราบไว้ก็คือ แม้ พรบ.รถยนต์ จะช่วยคุ้มครองเยียวยา แต่จำนวนเงินนั้นจะไม่มากนัก ซึ่งหากผู้เสียหายมีการเรียกร้องเพิ่มนอกเหนือไปจากที่ พรบ.จ่ายเยียวยาให้ คุณก็จะต้องจ่ายค่าเสียหายตรงส่วนเพิ่มเติมนี้เอง หากว่าคุณไม่ได้มีเงินมากนัก ก็แนะนำว่าให้เตรียมเงินสำหรับการชดเชยตรงนี้ก่อน แล้วค่อยหาเงินอีกจำนวนหนึ่งจ่ายในส่วนค่าเสียหายของรถ

ชีวิตคนย่อมสำคัญกว่าทรัพย์สิน ถ้าเราแสดงความรับผิดชอบในส่วนนี้อย่างเต็มที่ ก็นับเป็นการแสดงถึงความจริงใจของเรา ซึ่งอาจจะช่วยทำให้ผู้เสียหายเข้าใจเรามากขึ้น และอาจจะผ่อนปรนเรื่องค่าเสียหายในทรัพย์สินลงบ้างนั่นเอง

3.ตั้งสติรับมือกับเรื่องของคดีความที่จะตามมา

หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้รุนแรงอะไรมากก็ไม่ต้องหนักใจ แม้เราจะไม่มีประกันรถ ก็ขอแค่ชดใช้ค่าเสียหายก็จบกันไป แต่หากว่าอุบัติเหตุนั้นรุนแรงถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิตล่ะก็ เราจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท ตรงนี้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่คุณไม่ต้องตกใจไป ขอแค่ตั้งสติและให้รู้ว่านี่เป็นกระบวนการที่จะต้องเกิดขึ้น

จากนั้นให้คุณรีบหาเงินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันโดยด่วน กรณีต้องถูกคุมตัวฝากขัง เพื่อจะได้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดีในชั้นศาล (เงินประกันตัวตรงนี้ถ้าคดีความจบ เจรจากันได้ หรือศาลตัดสินรอลงอาญาเรียบร้อย ก็สามารถขอเงินประกันตรงนี้คืนภายหลังได้)

คุณจะเห็นว่า ถ้าเราพลาดหรือประมาทขับรถไปชนเขา และฝ่ายเราไม่ได้ทำประกันรถไว้ นำมาซึ่งปัญหาใหญ่ ๆ ที่เราต้องรับผิดชอบเองมากมาย ตรงนี้จึงอยากย้ำเตือนผู้ขับขี่ทั้งหลายว่า คุณควรทำประกันรถภาคสมัครใจไว้บ้าง อย่างน้อยเป็นประกันชั้น 3 ก็ยังดี ก็พอจะช่วยแบ่งเบาอะไรไปได้บ้าง ดีกว่าที่คุณจะต้องรับผิดชอบเองในทุกเรื่องคนเดียว

ซึ่งถ้าคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำประกันแบบไหนดี สามารถใช้บริการเปรียบเทียบประกันรถกับ Easy Compare ได้เลย แล้วคุณจะเลือกประกันที่ใช่สำหรับคุณได้ง่ายมากยิ่งขึ้น